วันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2552

เลิกอ้วน...ลดโรค ให้ "3 อ." ช่วยลดพุง


เลิกอ้วน...ลดโรค ให้ "3 อ." ช่วยลดพุง
เครือข่ายองค์กรงดเหล้า แนะ ไร้น้ำเมาด้วยจึงจะไม่อ้วน

เคย เห็นใครที่อ้วนลงพุงแล้วดูดี (จริงๆ) บ้างไหมคะ

หากไม่เข้าข้างตัวเองกันจนเกินไป คำตอบก็คือ "ไม่มี" เพราะนอกจากจะทำให้แลดูเสียบุคลิกแล้ว
ภาวะอ้วนลงพุงยังพาแขกมาเยี่ยมเยียนสุขภาพเราอีกเพียบ
อาทิ โรคเบาหวาน โรคอ้วน ไขมันอุดตันในเส้นเลือด โรคหัวใจ ฯลฯ
แน่นอนว่า โรคเหล่านี้ล้วนเป็นแขกที่เราไม่อยากรับเชิญทั้งสิ้น

ภาวะ อ้วนลงพุง เป็นกลุ่มอาการที่เกิดจากมีไขมันในช่องท้องมากเกินไป
มีระดับน้ำตาลในเลือด ความดันโลหิตสูงและระดับไขมันในเลือดสูง
ทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด
โดยเฉพาะหากมีรอบพุงมาก ยิ่งทำให้เกิดไขมันสะสมในช่องท้องมากขึ้นตามไปด้วย
โดยไขมันที่สะสมจะแตกตัวเป็นกรดไขมันอิสระเข้าสู่ตับ
มีผลให้อินซูลินออกฤทธิ์ได้ไม่ดี เกิดเป็นภาวะอ้วนลงพุง
ซึ่งผู้ชายจะมีเส้นรอบเอวเกิน 90 เซนติเมตร ส่วนผู้หญิงจะมีเส้นรอบเอวเกิน 80 เซนติเมตร

ใครที่อ้วนลงพุงไปแล้วก็อย่าเพิ่งถอดใจค่ะ ยังมีหนทางป้องกันภาวะอ้วนลงพุงที่ดีที่สุดคือ
การยึดหลัก 3 อ.ได้แก่ อ.อาหาร อ.ออกกำลังกาย และ อ.อารมณ์

สำหรับ "อ.อาหาร" เราสามารถเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ ได้
โดยเฉพาะการเน้นไปที่เมนูเพื่อสุขภาพ
กรมอนามัยได้รณรงค์ให้คนไทยบริโภคอาหาร ที่ถูกส่วนในปริมาณที่เหมาะสม ด้วยเมนูอาหารไทยไร้พุง อาทิ
ชุดส้มตำ-ไก่ย่าง ให้พลังงาน 262 กิโลแคลอรี
เกาเหลาเป็ด ให้พลังงาน 156 กิโลแคลอรี
ข้าวน้ำพริกลงเรือให้พลังงาน 325 กิโลแคลอรี
ข้าวหมูอบผัก ให้พลังงาน 256 กิโลแคลอรี
ปลากะพงนึ่งมะนาว ให้พลังงาน 140 กิโลแคลอรี
ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน ให้พลังงาน 118 กิโลแคลอรี
ยำผักหวาน ให้พลังงาน 1280 กิโลแคลอรี เป็นต้น

โดย ประชาชนที่สนใจเมนูอาหารไร้พุง กรมอนามัยได้มีการดำเนินงานเมนูอาหารไทยไร้พุง
ในร้านอาหารตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ประมาณ 200 ร้าน และจะมีการขยายร้านอาหารไทยไร้พุงเพิ่มขึ้น
เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงอาหารที่เอื้อต่อการมีสุขภาพดีต่อไป
ซึ่งหากจะให้ครบถ้วนสมบูรณ์ต้องรวมไปถึงเรื่องเครื่องดื่มด้วย โดยเครือข่ายองค์กรงดเหล้าในการสนับสนุนของ
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้กำหนดคอนเซ็ปต์ไว้ว่า
อาหารลดพุงแล้วจะต้องไร้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยจึงจะไม่อ้วน

ส่วน "อ.ออกกำลังกาย" เราสามารถทำได้
โดยแบ่งเวลาอย่างน้อยวันละ 15 นาที ไปออกกำลังกายเพื่อยืดเส้นยืดสาย ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยส่งผลให้ "อ.อารมณ์" รู้สึกเบาสบายด้วย และต้องไม่ลืมว่าในภาวะอื่นๆ ของชีวิตประจำวัน
เราก็ต้องพยายามทำจิตใจให้แจ่มใสอยู่เสมอ ปรับทัศนคติต่อสิ่งต่างๆ ไปในทางบวกมองโลกในแง่ดี
จะช่วยให้อารมณ์เย็น รู้สึกผ่อนคลาย

อย่างน้อยแค่ไม่อ้วนลงพุง ก็ช่วยลดโรคให้ร่างกายได้มากแล้ว
เพราะความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐที่ใครๆ ต่างก็ปรารถนา


ที่มา http://www.thaihealth.or.th/node/11688

รายการบล็อกของฉัน