วันอังคารที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2553

วิธีโกนขนใต้วงแขนให้ดูเกลี้ยงเกลา




วิธีโกนขนใต้วงแขนให้ดูเกลี้ยงเกลา
การโกนขนรักแร้นั้นเป็นภารกิจที่สร้างความรำคาญใจให้สาวๆ หลายคนอยู่ไม่น้อย แต่ถ้าคุณใช้เทคนิคที่เราได้รวบรวมมาฝากนี้ ก็จะช่วยให้คุณโกนขนใต้วงแขนให้ดูเกลี้ยงเกลาได้ง่ายขึ้น



ทำเป็นขั้นตอนสุดท้าย โกนขนใต้วงแขนเป็นสิ่งสุดท้ายในระหว่างที่คุณอาบน้ำ เพราะน้ำอุ่นจะช่วยให้ขนหยาบๆ ในบริเวณนั้นนิ่มลง คุณจึงสามารถโกนขนได้ง่ายขึ้น



ขัดก่อนโกน คุณต้องไม่ลืมกำจัดคราบผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่ติดอยู่ในบริเวณผิวใต้วงแขนออกไปให้หมดในขณะอาบน้ำ โดยใช้ผลิตภัณฑ์ขัดผิวกาย เพื่อให้สามารถโกนขนออกมาได้อย่างเรียบเนียน



เลือกใบมีดแบบปรับองศาได้ และมีใบมีดหลายอัน จะทำให้โกนเสร็จได้เร็วขึ้น และไม่ต้องลากมีดโกนลงบนส่วนที่ไวต่อความรู้สึกซ้ำแล้วซ้ำอีก ซึ่งอาจจะยิ่งสร้างความระคายเคืองมากขึ้นได้ หลังจากทาครีมโกนขนลงไปเรียบร้อยแล้ว ก็ยกแขนขึ้นสูงๆ แล้วเริ่มต้นโกน โดยลากมีดโกนขึ้นข้างบนลงข้างล่าง และจากข้างหนึ่งไปยังอีกข้างหนึ่ง การทำให้ผิวตรงนั้นตึงก็จะช่วยให้คุณโกนได้ชิดผิวหนังมากขึ้น ล้างใบมีดโกนบ่อยๆ ในระหว่างการโกน จะช่วยให้โกนได้เรียบเนียน เพราะไม่มีอะไรอุดตันในใบมีด



อย่าให้ทื่อ คุณต้องแน่ใจว่าใบมีดโกนยังมีความคมกริมอยู่ในทุกครั้งที่โกน ฉะนั้น ถ้าพบว่าใบมีดโกนทื่อแล้วก็ควรเปลี่ยนทันที และพยายามอย่าใช้มีดโกนอันเดิมเกินสองถึงสามครั้ง



ที่มาจาก Lisa

ขจัดคำว่า "ไม่กล้า" ออกไปซะ


ขจัดคำว่า "ไม่กล้า" ออกไปซะ
ขจัดคำว่า "ไม่กล้า" ออกไปซะ เพราะนี่คือหนทางเดียวที่จะทำให้คุณ "กล้า" ถามในสิ่งที่คุณอยากรู้เกี่ยวกับเรื่องอาการก่อนมีรอบเดือนหรือ PMS/ PMDD ของผู้หญิง… โดยผู้รู้จริงอย่าง เภสัชกรนิติ สันแสนดี เภสัชกรผู้เชี่ยวชาญโดยตรงและมีดีกรีคือ เภสัชศาสตร์บัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ 2) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมมีประวัติและผลงานอีกมากมายอาทิ เภสัชกรชุมชน วิทยากรทางวิทยุและโทรทัศน์ และอื่นๆอีกมาก แน่นด้วยความรู้พร้อมคอยตอบทุกคำถามทุกข้อสงสัยสำหรับผู้หญิงที่นี่ ที่เดียว! www.24secret.com

วันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2553

คำพูดต้องห้าม แต่ ฮิต ในที่ทำงาน


คำพูดต้องห้าม แต่ ฮิต ในที่ทำงาน
การพูดเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างสัมพันธ์ไมตรี แต่จะพูดอย่างไรในที่ทำงานให้เพื่อนร่วมงานรู้สึกดีด้วย เราจึงควรที่จะคิดก่อนพูด ไม่จำเป็นที่จะพูดทุกคำที่คิด หากหลุดจากปากเราไปแล้ว เราจำเป็นต้องรับผิดชอบคำพูดของตัวเอง ไม่ว่าคำนั้นจะดีหรือไม่ดี แล้วรู้หรือไม่ว่าคำไหนที่ต้องระวังกันบ้างในเวลาทำงาน มาดูสิว่าคำพูดเหล่านี้เคยหลุดจากปากคุณบ้างหรือเปล่า


1.คำพูดกำกวม อย่างว่า “บางที ประมาณว่า น่าจะ อาจจะ สังสัยว่า” เพราะการใช้คำเหล่านี้จะแสดงความไม่แน่ใจว่าคุณจะทำงานที่ได้รับมอบหมายได้หรือเปล่า ถ้าใช้บ่อยๆจะดูไม่น่าเชื่อถือ เวลาถูกถามให้คิดก่อนอย่าตอบทันทีแบบไม่ได้คิดออกไป


2.การใช้สำนวนวัยรุ่นในการทำงาน เช่น “ฟังแล้วโอเลย ,ได้คะชิวชิว ,อึ้งกิมกี่ ,งานนี้เจ๋งไปเลย” นอกจากจะดูไม่ดีแล้ว ยังทำให้ผู้ใหญ่มองเราเด็กไม่มีมารยาท ใช้ภาษาอะไรไม่รู้ฟังไม่รู้เรื่อง ดูขัดหูขัดตาไปหมด อีกทั้งไม่ควรพูดยานคางอย่าง “น้า..ค้า...”แต่ในกรณีที่หัวหน้าเป็นวัยรุ่น อาจไม่เคร่งเรื่องการพูดมากนะ แต่ภาษาเขียนถูกต้องก็ไม่เป็นไร


3.ไม่ใช่คำที่เข้าใจไม่ตรงกัน คือเวลาที่เราพูดถ่ายทอดข้อมูลอย่าพูดจนดูเวอร์ เช่น ให้เขียนงานส่ง1หน้า แต่เมื่อมีคนถาม เขียนงานเยอะมาก หรือ"ค่อนข้างเยอะ" คนฟังจะรูสึกว่าต้องเขียนหลายหน้าแน่เลย ควรพูดว่า "ไม่เท่าไหร่"


4.อย่าใช้ศัพท์เฉพาะ หรือทับศัพท์มากเกินไป สำหรับคนที่อยู่ต่างวงการกัน อย่างชอบพูดทับศัพท์ภาษาคอมพิวเตอร์กับคนที่ไม่รู้เรื่องคอมฯ ก็จะคุยกันไม่รู้เรื่อง แต่ถ้าคนที่คุณคุยด้วยอยู่ในวงการเดียวกันและคุ้นเคยกับคำศัพท์เหล่านี้ อีกทั้งคำศัพท์ที่กำลังฮิตอยู่นั้นก็ไม่ควรพูด เป็นการเสียมารยาท


คำพูดเหล่านี้ใครเคยหลุดพูดหรือกระทำไปโดยไม่รู้ตัวบ้าง หากไม่รู้ลองสำรวจตัวเองดูว่าเคยใช้คำเหล่านี้มั้ย แล้วค่อยๆปรับเปลี่ยนตัวเองดู


"คิดก่อนพูด แต่ไม่ต้องพูดทุกคำที่คิด"

คนไทยวัยทำงาน…สายตาเสื่อมเร็วขึ้น


คนไทยวัยทำงาน…สายตาเสื่อมเร็วขึ้น
วันนี้เปิดเน็ตหาข้อมูลทำงาน อ่านข่าวแล้วตกใจเหมือนกัน เค้าบอกว่าคนไทยวัยทำงาน กว่า 14 ล้านคนมีปัญหาทางสายตา หนึ่งในสาเหตุหลักๆมาจากคอมพิวเตอร์ คือดูตัวเลข แล้วรู้สึกว่ามันเยอะมาก ถ้าเป็นก่อนหน้านี้แสนเสน่ห์อาจจะเครียด กลัวว่าจะเป็นหนึ่งใน 14 ล้านคนนั้น แต่ที่ผ่านมามั่นใจว่าดูแล ดวงตาของตัวเองดีด้วยเบอร์รี่เป็นประจำ…เลย ค่อนข้างจะหมดห่วง แต่ก็ไม่ลืมที่จะเก็บมาฝากทุกคนค่ะ


กระทรวงสาธารณสุขเค้าเตือนหนุ่มสาวที่นั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์นานวันละ 10 ชั่วโมง หรือดูทีวี อาจทำให้สายตาเสื่อมเร็วขึ้น แนะควรหยุดพักสายตาทุก 2 ชั่วโมง รับประทาน อาหารที่มีวิตามินเอสูง เช่น ตับ ไข่แดง นม ผลไม้สีเหลืองและผักสีเขียว ปัญหาสายตาเป็น ปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบคุณภาพชีวิตทุกกลุ่มอายุ ผลสำรวจด้านสายตาของกระทรวง สาธารณสุขรอบ 7 ปีที่ผ่านมา โดยตรวจวัดสายตากลุ่มวัยแรงงาน ที่มีประมาณ 45 ล้านคน พบว่าร้อยละ 30 มีสายตาข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้ง 2 ข้างผิดปกติ มองแผ่นภาพวัดสายตาได้ ไม่สมบูรณ์ คาดว่าขณะนี้มีคนไทยไม่ต่ำกว่า 14 ล้านคนสายตาผิดปกติ ต้องเร่งให้ความรู้ ในการถนอมดวงตา การป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับดวงตา



ปัจจุบันพบมีปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ประชาชนสายตาเสื่อมเร็วขึ้น เช่น การใช้คอมพิวเตอร์ ดูทีวี มีผลวิจัยพบว่าวัยหนุ่มสาวในปัจจุบัน ใช้เวลานั่งหน้าคอมพิวเตอร์ประมาณวันละ 10 ชั่วโมง นอกจากจะมีอาการแสบตา เคืองตา ปวดรอบ ๆ ดวงตา บางรายเป็นมากจะปวด ศีรษะอย่างรุนแรง วิงเวียน คลื่นไส้ มักเกิดในช่วงที่ใช้สายตาหรือมีงานเร่งด่วน อาการ เหล่านี้จะดีขึ้นเมื่อได้พักผ่อนสายตาแล้ว และการนั่งนานๆ ยังเป็นสาเหตุทำให้เกิด ปัญหาสุขภาพอื่นๆ เช่น ปวดหลัง เท้าบวม เป็นต้น



ผู้ที่ใช้คอพิวเตอร์ ควรหยุดพักสายตาทุก 2 ชั่วโมง ครั้งละ ประมาณ 15 นาที และลุกเดินไปมาบ้าง เพื่อช่วยให้เลือดหมุนเวียนได้ดีขึ้น ส่วนการนั่งดูทีวี ควรดูในห้องที่มีแสงสว่างพอควร และนั่งห่างจากทีวีประมาณ 5 เท่า เช่น จอทีวี 14 นิ้ว ควรนั่งห่างประมาณ 6 ฟุต หากประชาชนมีปัญหาสายตา ควรปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อตรวจ วัดความผิดปกติ และเลือกแว่นตาให้เหมาะสม และดูแลรักษาความสะอาดของดวงตาอย่างสม่ำเสมอ จะเป็นการป้องกันสายตาเสื่อมได้

นอกจากนี้ยังมีอาหารที่ช่วยบำรุงสายตา เช่น ตับ ไข่แดง นม ฟักทอง แครอท และผัก ใบเขียว เนื่องจากมีวิตามินเอสูง และผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงอย่างเบอร์รี่ที่แสนเสน่ห์ รับประทานเป็นประจำ ใครจะเลียนแบบก็ได้นะคะ…ไม่สงวนลิขลิทธิ์จ้ะ โรคพวกนี้รักษาไม่หายก็จริง ถ้าเป็นก็ต้องผ่าตัดอย่างเดียว ซึ่งก็ไม่รับประกันว่าจะหาย หรือไม่ เพราะฉะนั้นต้องรู้จักหาวิธีป้องกัน ถึงคนวัยทำงานอย่างเราจะมีความเสี่ยงสูง ที่จะเป็นโรคนี้ ก็ไม่ต้องกลัวค่ะถ้าดูแลตัวเองดี

ข้อมูลอ้างอิง : moph.go.th

อาหาร สำหรับ คนนอนดึก


อาหาร สำหรับ คนนอนดึก
การพักผ่อนเป็นการให้เวลาร่างกายได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ขับของเสียตามอวัยวะต่างๆ ย่อยอาหารที่รับประทานตลอดวัน หากรับประทานมื้อหนักในตอนกลางคืนควบคู่กับการนอนดึก รับรองว่า "อ้วน" มันจะมาโดยไม่รู้ตัว !! เพราะเผาผลาญไขมันไม่หมด จึงเกิดการสะสม แต่ถ้าจำเป็นต้องนอนดึกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้วล่ะก็... แนะนำว่าควรรับประทานอาหารดังต่อไปนี้


งดเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อวัว, เนื้อหมู, ไก่ ซึ่งย่อยยาก ลำไส้ต้องทำงานหนัก หากอยากรับประทานเนื้อสัตว์ ควรเคี้ยวให้ละเอียด เพื่อแบ่งเบาภาระการทำงานของลำไส้

ดื่มน้ำขิง ผสมน้ำผึ้งอุ่นๆ หรือน้ำอุ่น ผลมน้ำผึ้ง หรือ น้ำอุ่นธรรมดาซัก 1 แก้วก็ได้

เวลานอน ควรทำให้ช่วงท้องและฝ่าเท้าอุ่น โดยการห่มผ้า

มื้อดึก ควรเป็นมื้อเบาๆ อย่าง ผัก, ผลไม้, นม, ไข่ และ เนื้อปลา ซึ่งดีต่อสุขภาพมากกว่า

ไม่ควรดื่มน้ำเย็น หรือน้ำอัดลม เพราะจะเพิ่มภาระให้ระบบภายในร่างกาย เนื่องจากร่างกายต้องการความร้อนเพื่อช่วยย่อยอาหาร


หากจำเป็นต้องนอนดึก ควรรับประทานอาหารที่แนะนำในข้างต้น แต่ทางที่ดีไม่ควรนอนดึกมากจนเกินไป เพื่อสุขภาพที่ดี


ขอบคุณที่มาบทความจาก ทีวีอินไซด์

10 เคล็ดลับกระชับหุ่นให้ดูดี


10 เคล็ดลับกระชับหุ่นให้ดูดี
อยากหุ่นสวยเรามีเคล็ดลับให้หุ่นผอมเพรียวดูดี



1. ตั้งเป้าหมายบนพื้นฐานของความเป็นจริงและวัดผลได้

เขียนเป้าหมายทางฟิตเนสที่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงและคุณสามารถทำตามได้ 3– 4 ข้อ เช่น “ฉันจะลดไขมันในร่างกายให้ได้ 0.45 กก. ทุกสัปดาห์” “ฉันจะใช้เวลา 30 นาที ในการเดิน อย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์” หลีกเลี่ยงเป้าหมายที่เพ้อฝันซึ่งจะทำให้คุณท้อแท้





2. เตรียมตัวให้พร้อม

โยนอาหารขยะและอาหารที่ผ่านกรรมวิธีทิ้ง แทนที่มันด้วยอาหารสด ไม่ผ่านกรรมวิธี เช่น น้ำและผักต่าง ๆ ซื้อรองเท้าสำหรับเดินคู่ใหม่ พร้อมเสื้อผ้าใหม่ที่คุณจะรู้สึกสบายเมื่อใส่เดินออกกำลัง หากคุณล้มเหลวในการวางแผนการเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ นั่นหมายความว่าคุณกำลังวางแผนที่จะล้มเหลว!





3. หาผู้สนับสนุน

หาผู้สนับสนุนและให้กำลังใจ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน สามี-ภรรยา หรือแม้แต่สัตว์เลี้ยง คุณจะรู้สึกดีที่มีผู้สนับสนุนที่ไม่ตัดสินคุณจากภายนอก และให้กำลังใจคุณในขณะกำลังพยายามลดน้ำหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ต้องใช้ความพยายามสูง





4. จดบันทึกประจำวัน

ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าการจดบันทึกการออกกำลังกายและการรับประทานอาหารในแต่ละวันในบันทึก จะส่งผลให้อัตราการประสบความสำเร็จเพิ่มขึ้น จดบันทึกง่าย ๆ จุดประสงค์สำคัญคือทำให้คุณอธิบายสิ่งที่ทำในแต่ละวันได้







5. สร้างระบบของรางวัลที่ไม่ใช่อาหาร

ให้รางวัลตัวเอง เช่น ชุดออกกำลังกายชุดใหม่ ยีนส์ใหม่ รองเท้าใหม่ หรือแม้กระทั่งโปรแกรมสปา สนุกสนานกับการช้อปปิ้ง ทริปท่องเที่ยววันหยุด คุณสมควรได้รับรางวัลพิเศษเหล่านี้เมื่อทำสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้





6. ซื้อเครื่องนับจำนวนการเดิน (Pedometer)

เครื่องนับจำนวนการเดินจะนับจำนวนก้าวที่คุณเดินในแต่ละวัน ใช้มันทุกวัน ทั้งที่บ้าน ที่ทำงาน และขณะออกกำลังกาย เป้าหมายหลักของคุณคือเพิ่มจำนวนการเดิน 10,000 ก้าว หรือมากกว่า ในทุก ๆ วัน! ข้อควรจำ คือ คุณจะเผาผลาญ 100 – 125 แคลอรี่ต่อการเดิน 2,500 ก้าว (ประมาณ 1.6 กม.) เป้าหมายย่อยของคุณ คือ พยายามเผาผลาญแคลอรี่ให้มากขึ้น 300 แคลอรี่ต่อวัน และรับประทานให้น้อยลง 200 แคลอรี่ต่อวัน

500 แคลอรี่ที่หายไปเทียบเท่ากับการลดไขมันในร่างกาย 0.45 กก.ต่อสัปดาห์ และเป็นการเสริมความภาคภูมิใจในตัวเองของคุณ





7. อย่างดอาหารมื้อเช้า

ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าผู้ที่ประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักส่วนมากไม่งดอาหารมื้อเช้า พยายามทำให้มื้อเช้าของคุณสมดุลด้วยโปรตีน คาร์โบไฮเดรตที่มีประโยชน์ และไขมันจำนวนเล็กน้อย





8. งดการทานอาหารมื้อดึก

ถ้าคุณรับแคลอรี่ส่วนเกินหลัง 20.00 น. คุณจะแบกแครอลี่นั้นไปจนถึงเช้าวันถัดไป หยุดวงจรนี้ด้วยการทานอาหารมื้อเย็นที่มีประโยชน์ ประกอบด้วย โปรตีน ผัก และผลไม้





9. กำจัดน้ำตาลที่ผ่านกระบวนการผลิต

น้ำตาลที่ผ่านกระบวนการผลิต คือ คาร์โบไฮเดรตที่ไม่มีคุณค่าทางสารอาหาร ได้แก่ น้ำตาลทรายขาว พาสต้า ข้าวขาว และขนมปัง อาหารเหล่านี้จะทำให้คุณอยากอาหารมากกว่าที่ต้องการจริง ๆ





10. ทานอาหารว่างช่วงบ่าย

อาหารว่างช่วงบ่ายจะช่วยควบคุมความอยากอาหารและเพิ่มพลังคุณให้พร้อมสำหรับการเดินหรือออกกำลังกายหลังการทำงาน

รายการบล็อกของฉัน